ข่าว ทั่วไป

ตายแล้วไปไหน ตายแล้วฟื้น?



การ ’ตายแล้วฟื้น“ เป็นปรากฏการณ์ที่สร้างกระแสฮือฮาในสังคมไทยอยู่เนือง ๆ อย่างล่าสุดก็เพิ่งเกิดขึ้นอีกที่ จ.อุดรธานี กับ คุณยายวัย 94 ปี ที่เสียชีวิตไป แต่ฟื้นกลับมาใหม่ ท่ามกลางความตกใจระคนงุนงงของผู้คน แต่นี่ก็ย่อมนำความยินดีมาสู่คนใกล้ชิด และนี่ก็ตอกย้ำว่า ’ฟื้นขึ้นจากความตาย“ แม้จะไม่รู้ว่า “เป็นไปได้อย่างไร?” แต่ก็เป็นสิ่งที่ ’เป็นไปได้!“

“ตายแล้วฟื้น” การ “ตื่นขึ้นมาหลังจากตาย”

ไม่เพียงเกิดขึ้นในไทย “ในต่างประเทศก็มี”

ทั้งนี้ การ ’ตายแล้วฟื้น“ นั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนสนใจกันมาก โดยเมื่อลองค้นหาดูในโลกไซเบอร์ ในสื่อออนไลน์ ในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่ามีเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย มีการระบุถึงกรณีเช่นนี้ไว้มากมาย ทั้งในลักษณะการร่ำลือ และที่เคยมีข่าวตามสื่อต่าง ๆ

ยกตัวอย่างกรณีที่เคยปรากฏเป็นข่าว ที่เคยเป็นกระแสฮือฮาก่อนหน้านี้ ก็เช่น...กลางเดือน ก.ย. ปี 2554 มีกรณี คุณยายวัย 73 ปี ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งสิ้นลมหายใจไปเกือบ 1 วันเต็ม ก่อนจะฟื้นและลุกขึ้นมากลางพิธีศพ ในขณะลูกหลานกำลังเตรียมทำพิธีทางศาสนา และได้เล่าเรื่องราว ’ชีวิตหลังความตาย“ หลังฟื้นกลับมา ให้บรรดาลูกหลานเครือญาติฟังว่า...หลังจากตายไปก็ไปยืนอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง และได้พบกับพี่สาวที่เสียชีวิต

ไปก่อนหน้านี้นานหลายปีแล้ว ก่อนจะถูกพาตัวไปตามสถานที่ต่าง ๆ

คล้าย ๆ วัด หรือสถานปฏิบัติธรรม ก่อนที่จะตื่นและฟื้นขึ้นมา ท่ามกลางความตกตะลึงของลูกหลานและญาติ

หรืออีกกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนหน้ากรณีของคุณยายวัย 94 ปี ที่ จ.อุดรธานี ไม่นาน คือกรณีของ ชายพิการวัย 32 ปี ที่ จ.นครศรีธรรมราช รายนี้ก็หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาใหม่ ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผู้คน

เรื่องราวการ ’ตายแล้วฟื้น“ มีทุกมุมโลก

เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย

การ “ตายแล้วฟื้น” นั้น ในต่างประเทศก็มีเรื่องทำนองนี้ปรากฏขึ้นบ่อย ๆ อาทิ...กรณี คุณยายชาวจีนวัย 95 ปี รายหนึ่ง ที่ทำให้เพื่อนบ้านช็อก!! เมื่อจู่ ๆ ก็ ปีนออกมาจากหีบศพหลังสิ้นลมไปแล้วนานถึง 6วัน!! หรืออีกกรณีหนึ่งที่จีนเช่นกัน ที่เมืองเหลียนเจียง มณฑลกวางตุ้ง คุณยายชาวจีนวัย 101 ปี รายหนึ่ง หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว แต่ก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ โดย ลุกขึ้นมานั่งระหว่างที่ลูกหลานกำลังจะนำร่างบรรจุใส่โลง และตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งในต่างประเทศ คือกรณี ชายชาวอียิปต์วัย 28 ปี ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย เขาสิ้นใจไปแล้ว แต่กลับจากความตายได้ทันแบบฉิวเฉียด ที่ว่าฉิวเฉียดก็เพราะเป็นการฟื้นคืนชีพขึ้นมาในขณะที่ญาติ ๆ กำลังเตรียมนำร่างเขาบรรจุใส่ลงในหลุมตามพิธีทางศาสนา คือถ้าช้าอีกนิดล่ะก็คง “ไปไม่กลับ” แน่!!

ไม่เท่านั้น!! การ ’ตายแล้วฟื้น“ ในต่างประเทศนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งฮือฮาอีกกรณีหนึ่ง โดยเกิดขึ้นเกี่ยวโยงกับ “วิกฤติเชื้อไวรัสอีโบลา” ที่แพร่ระบาดในหลายประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกและสร้างความหวาดหวั่นทั่วโลก คือกรณี ชายชาวไลบีเรียวัย 37 ปี รายหนึ่ง “ตายแล้วฟื้น” โดยมีคนพบเขานอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลา แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการเก็บศพ แขนของชายคนนี้กลับขยับได้ ส่งสัญญาณว่า...ยังไม่ตาย ท่ามกลางความตกใจของคนในเหตุการณ์

นี่ก็เป็นกรณี “ตายแล้วฟื้น” ที่ดังทั่วโลก

แต่ด้วยอีโบลาก็ไม่รู้จะฟื้นนานแค่ไหน?

อย่างไรก็ตาม เรื่องการ ’ตายแล้วฟื้น“ นั้น ไม่เพียงคนทั่วไปที่สนใจ กับ “แวดวงวิทยาศาสตร์-วงการแพทย์” ก็อยากที่จะ ’ไขปริศนา“ เรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข้อมูลคำอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ ในทางการแพทย์ แต่ผู้คนก็ดูจะไม่ค่อยเข้าใจนัก

และที่สนใจกันมากกว่าคือ “ชีวิตหลังความตาย” ซึ่งในต่างประเทศเคยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ต้องการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย โดยมีข้อมูลจากหลายแหล่ง จาก “คำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต” ที่มีประสบการณ์ “ผ่านความตายมาแล้ว”

ประเด็นหลังนี้ อีกนัยหนึ่งก็คือเป็นข้อมูลคำบอกเล่าของผู้ที่ “ตายแล้วฟื้น” ซึ่งเรื่องราวคำบอกเล่าส่วนใหญ่มักจะเป็นการบรรยายถึง “สถานที่” ที่คนกลุ่มนี้คิดว่าได้ไปมา ได้พบเห็น ในช่วงที่ตายไปช่วงสั้น ๆ อาทิ...อุโมงค์, ภาพหมุนเกลียว, แสงสว่างเจิดจ้า, นรก-สวรรค์ ฯลฯ รวมถึง เห็นตัวเองหลังหัวใจหยุดเต้น นัยว่าเป็นการ เห็นตัวเองหลังวิญญาณออกจากร่างแล้ว และยังมีคำบอกเล่าเกี่ยวกับการ เห็นญาติมิตรที่ตายไปแล้ว เห็น เทพ-พระ-นักบวช-บุคคลสำคัญ ได้เห็นแล้วก็ฟื้นขึ้นมา หรือ ’ตายแล้วฟื้น“ ซึ่งข้อมูลคำบอกเล่าในต่างประเทศ กับในประเทศไทย ก็ดูจะมีส่วนที่คล้ายกัน หรือสอดคล้องกัน อย่างน่าคิด??

กับภาวะหลังความตายดังกล่าว ในทางวิทยาศาสตร์ก็พยายามอธิบายว่า... ’เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้“ แต่ก็พบได้ไม่บ่อยครั้งนัก คือมีเปอร์เซ็นต์น้อยที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ โดย...“ความตาย เป็นกระบวนการที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อหัวใจหยุดเต้น ปอดหยุดทำงาน และสมองหยุดสั่งการ ภาวะเช่นนี้ทางแพทย์เรียกว่า...หัวใจวาย ซึ่งถ้ามองในแง่ชีววิทยา ก็มีความหมายตรงกับการตายในทางการแพทย์” ...นี่เป็น “คำอธิบายความตาย” ในทางวิทยาศาสตร์-ในทางการแพทย์

ทั้งนี้ ไม่นับรวมกรณี “ตั้งใจหลอกลวงผู้คนเพื่อหวังผลประโยชน์โดยมิจฉาชีพ” กับการ “ตายแล้วฟื้น” ที่เกิดขึ้นจริง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเรื่องพิศวงที่ชวนให้ ’พิสูจน์-ค้นคว้า-อธิบาย-ไขปริศนาให้ชัดเจน“ กันต่อไป...เช่นเดียวกับ “ชีวิตหลังความตาย”

แต่ถึงจะไขปริศนานี้ได้ไม่ชัดนัก...ก็มีข้อดี

’ตายแล้วไปไหน?“ จากคำเล่า...ให้สติคน

ไม่ว่าจะยังไง?...’ทำดีก่อนตาย...ดีที่สุด!!!“.

หวย99 | Distributed By เว็บหวยออนไลน์ | Designed By หวย99

รูปภาพธีมโดย Bim. ขับเคลื่อนโดย Blogger.